วันอังคารที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

วันที่ 14 หญิงชราผู้เฝ้าต้นสะเดา

  การให้ ย่อมทำให้เกิดการแตกยอด งอกเงยแบบไม่รู้จบ

            หลายคนอาจไม่ชอบความขมของสะเดา แต่สำหรับสะเดาต้นนี้ รับรองว่ายากที่หลายคนจะปฏิเสธ เพราะมันคือ สะเดาหวานนนนน

            เนิ่นนานตามสมมติในท้องเรื่อง มีหมู่บ้านแห่งหนึ่งมีชื่อว่า หมู่บ้านสะเดาหวานเห็นชื่อหมู่บ้านก็แปลกแสนแปลก แต่ชื่อนี้ได้มากจากสะเดาต้นหนึ่งที่ขึ้นอยู่หลังบ้านติดริมสระของหญิงชราคนหนึ่งท้ายหมู่บ้าน ซึ่งมีต้นนี้ต้นเดียวในหมู่บ้านจริงๆ ขนาดที่ใครคิดจะนำไปขยายพันธุ์ที่อื่นๆก็ไม่สามารถเจิญเติบโตได้

            ยอดของสะเดาต้นนี้เมื่อใครได้เก็บไปเพื่อจะทำน้ำปลาหวานจะทุ่นแรงได้เยอะ เพราะไม่ต้องทำน้ำปลาหวาน หาแต่ปลาย่างหอมๆมาก็เป็นอันกินกันได้อย่างมีความสุข ดูแล้วก็ปานว่า สะเดาต้นนี้เกิดจากสายพันธุ์สะเดาบวกน้ำปลาหวาน อะไรก็ปานนั้น

            ของดีๆแบบต้นสะเดาหวาน มีไว้ให้หวง สำหรับคนใจแคบแบบหญิงชราผู้นี้  วันๆแกมัวแต่นั่งเฝ้าไม่ไปไหน กล้วคนจะมาแอบขโมยสะเดาหวานไปลิ้มรสที่บ้าน ลำพังแกเองก็ไม่ได้ชอบนักหรอกกับความผิดธรรมชาติของสะเดาพันธุ์นี้ นานๆไปเด็ดกินที แต่ขอให้แกได้หวง คืนนั้นก็นอนหลับแล้ว

            นานวันผ่านไปสะเดาหวานกลับมีอาการแปลกๆ เต็มไปด้วยยอดแก่ เหี่ยวลงเหี่ยวลงทุกที ทั้งๆที่หญิงชรานั่งเฝ้า รดน้ำ ใส่ปุ๋ยทุกวัน แตทำไมๆ หนอถึงเป็นเช่นนี้ หญิงชรากุ้มใจกับเรื่องนี้จนกินไม่ได้ นอนไม่หลับ เกิดอาการไข้ขึ้นจึงต้องเข้าไปนอนในบ้าน

            3 วันผ่านไปหญิงชราฟื้นไข้ สิ่งแรกที่นึกขึ้นได้ขณะพยุงตังลุกขึ้นได้ คือ การไปดูต้นสะเดาหวานสุดรัก เมื่อได้พบกับสะเดาหวาน หญิงชราลมแทบจับ  เพราะไม่เหลือใบให้เห็นแม้แต่น้อย หญิงชราทรุดลงกับพื้นด้วยความเสียงใจ ได้แต่บ่นพร่ำพรัมกับคราบน้ำตาว่า "ไม่น่าเลย"

            แต่แล้วมีสิ่งหนึ่งที่ทำให้หญิงชราต้องเงยหน้าขึ้นมาดูอย่างแปลกใจ ชาวบ้านแถวๆนั้นนำอาหาร ข้าวสาร และเครื่องใช้มามอบให้กับหญิงชราโดยไม่ทราบสาเหตุ หญิงชราหยุดร้องให้และถามออกไปว่า เอามาให้ข้าทำไม? ชาวบ้านคนหนึ่งจึงไขความกระจ่างว่า ก็ตอนที่ยายป่วยอยู่ จู่ๆใบสะเดาหวานก็สลัดตัวเองร่วงหล่นหมด เราอยู่กันแถวนี้ก็เลยมาเก็บไปกินเองบ้าง ขายบ้าง ได้ราคาดีมากแม้จะเป็นใบแก่ เพราะเป็นของแปลกมั๊ง พวกเราเองพอได้อะไรดีๆจากสะเดาหวานต้นนี้จึงอยากตอบแทนคุณยายบ้าง
            
        หญิงชรายังยืนงง แต่สายตาเหลือบไปเห็น ต้นสะเดาหวานกำลังผลิใบอ่อนอีกครั้ง
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า

           สะเดาหวานไม่ได้มีไว้กินคนเดียว  สะเดาหวานเสียสละโดยการให้ เพื่อเกิดสิ่งที่ดีกว่าที่ไม่รู้จบ เหมือนอย่างคนเรา บางครั้งอาจจะต้องรู้จักให้ก่อน เพื่อแตกยอดออกไปสู่ความงดงามที่ไม่รู้จบได้

            เริ่มให้นับจากวันนี้……


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น